วันเสาร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2555

กีต้าร์ไอดอล



POP THESUN




จักรรินทร์ ดวงมณีรัตนชัย (ชื่อเล่น: ป๊อป) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ ป๊อป หินเหล็กไฟ หรือ ป๊อป เดอะ ซัน เจ้าของฉายา เดอะ เฟอรารี่ เป็นนักกีตาร์ วง หิน เหล็ก ไฟ และ เดอะซัน ได้รับการนับถือให้เป็นมือกีตาร์ชั้นแนวหน้าในแนวร็อกคนหนึ่งของประเทศไทย เหมือนเช่น แหลม มอริสัน, กิตติ กีตาร์ปืน, ชัคกี้ ธัญญรัตน์, ชาตรี คงสุวรรณ หรือ เล็ก คาราบาว
ป๊อปเกิดเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2513 ที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นลูกชายคนสุดท้องของครอบครัว เริ่มเล่นกีตาร์มาตั้งแต่ยังเด็ก ๆ โดยฝึกหัดเอง ด้วยวัยเพียง 13 ปี ก็สามารถโซโล่เพลงร็อกในระดับสากลที่มีชื่อเสียง อย่า์ง Rock Bottom และ Highway Star ได้แล้ว จากนั้นเมื่อได้เข้าเรียนในคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก็ได้ฝึกฝนการเล่นกีตาร์ให้ดียิ่งขึ้นเรื่อย ๆ โดยตั้งวงดนตรีกับเพื่อน ๆ ในชื่อว่า Force พร้อมกับได้รู้จักกับนักดนตรีร็อกเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อาทิ ศิริศักดิ์ ศิริโชตินันท์ หรือ หมู คาไลโดสโคป ซึ่งมาเป็นที่ปรึกษาให้ เป็นต้น
เมื่อศึกษาจบแล้ว โดยใช้เวลา 4 ปีครึ่ง ได้เดินทางกลับกรุงเทพมหานคร เพื่อร่วมเล่นดนตรี ก็ได้รับการทามทาบจาก ปฐมพงศ์ สมบัติพิบูลย์ หรือ โป่ง และณรงค์ ศิริสารสุนทร หรือ 'รงค์ เพื่อตั้งวงดนตรีในแนวเฮฟวี่ เมทัล วงใหม่ ซึ่งก็คือ หิน เหล็ก ไฟ ในเวลาต่อมานั่นเอง




 http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B9%8C_%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%93%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%A2

วิธีจับคอร์ด ( 4 คอร์ดพื้นฐาน) เบส 6 สาย





4 Primary Chord คือ คอร์ด 4 ประเภทที่เป็นพื้นฐานสำคัญในทฤษฎีดนตรีที่เราทุกคนต้องรู้จัก และเป็น 4 คอร์ดพื้นฐานที่เราต้องหัดวางนิ้วให้ถูก ทั้งในแบบที่โน้ตเบสอยู่บนสายหกของกีตาร์ และแบบที่เบสอยู่บนสายห้า

ในแต่ละคอร์ดจะสามารถจับได้ 4 ตำแหน่ง คือ
ตำแหน่งแรกเรียกว่า Root Position
ตำแหน่งที่สองเรียกว่า First Inversion
ตำแหน่งที่สามเรียกว่า Second Inversion
ตำแหน่งที่สี่เรียกว่า Third Inversion

จะเห็นว่าในหนึ่งคอร์ดนั้นเราสามารถจับได้ถึง 4 ตำแหน่ง ถ้า 4 คอร์ดแบบเบสบนสายหก คูณกับ 4 ตำแหน่ง คุณจะสามารถจับได้ทั้งหมด 16 ฟอร์ม และถ้า 4 คอร์ดแบบเบสบนสายห้า คูณกับอีก 4 ตำแหน่ง คุณก็จะสามารถจับได้อีก 16 ฟอร์ม
สรุปแล้วคุณจะสามารถจับคอร์ดได้ถึง 32 ฟอร์ม จากคอร์ดเพียง 4 คอร์ดพื้นฐานนี้ และนี่คือแบบฝึกหัดเบื้องต้นในการทำความเข้าเรื่องคอร์ดในดนตรีแจ๊สครับ


ไอดอลร็อค เสก โลโซ



เสก เสกสรร ศุขพิมาย เกิดเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2517 จบการศึกษาระดับมัธยมจากโรงเรียนวัดโคกหนองไผ่ ตำบลโคกหนองไผ่ อำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา หลังจากนั้น เสก โลโซ ได้โลดแล่นเข้าสู่เส้นทางดนตรีอาชีพ โดยการเริ่มเล่นดนตรีอาชีพตามผับ จากนั้นก็ได้เจอกับ อภิรัฐ สุขจิตร์ (รัฐ) มือเบส และ กิตติศักดิ์ โคตรคำ (ใหญ่) มือกลอง เพื่อน ๆ ร่วมวงโลโซ และก่อตั้งวงขึ้นในช่วงกลางปี 2533 จนได้ออกอัลบั้มกับค่ายแกรมมี่ด้วยกันในปี  2539 ในชื่ออัลบั้มว่า "Lo Society" ซึ่ง ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากแฟนเพลง เป็นขวัญใจขาร็อคทั่วประเทศเลยก็ว่าได้ ซึ่งในอัลบั้มแรก เพลงที่ฮอตฮิตติดกระแสก็คงจะหนีไม่พ้นเพลง "ไม่ต้องห่วงฉัน", "I Wanna Love You", "เราและนาย" หรือจะเป็น "ไม่ตายหรอกเธอ" ที่เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงร้องอ๋อ หากได้ยินชื่อเพลงเหล่านี้





        






ต่อมาในปี พ.ศ. 2540 วงโลโซก็ได้มีผลงานพิเศษในชื่อ Loso Special ซึ่งเป็นอัลบั้มเพลงประกอบภาพยนตร์จักรยานสีแดง ที่ได้ซูเปอร์สตาร์สุดฮอตในยุคนั้นอย่าง มอส-ทาทา เป็นพระนาง ส่งผลให้เพลง "จักรยานสีแดง" เป็น เพลงสุดฮิต ไปทางไหนก็มีแต่คนร้องเพลงนี้กันทั่วบ้านทั่วเมืองเลยทีเดียว หลังจากนั้นในปีพ.ศ.2541 วงโลโซก็ได้ออกอัลบั้มเต็มอัลบั้มที่ 2 ในชื่อ "Loso Entertainment" โดยมีเพลงเด่น ๆ ในอัลบั้มนี้เช่น "ซมซาน", "เลิกแล้วต่อกัน", "แม่", "อะไรก็ยอม" หรือ "อยากเห็นหน้าคุณ" เป็นต้น






        
 และในปี พ.ศ.2542 ในอัลบั้ม "Rock & Roll" วงโลโซก็ได้มีสมาชิกพิเศษขึ้นมา คือ ณัฐพล สุนทรานู (กลาง) มือเบสที่เข้ามาร่วมวงชั่วคราว ซึ่งในอัลบั้มนี้ก็มีผลงานเพลงที่โด่งดังคือ "ใจสั่งมา", "ร็อก แอนด์ โรล" และ  "คืนจันทร์" เป็นต้น และ กลาง มือเบสคนใหม่ก็ได้ร่วมวงมาถึงอีกอัลบั้มหนึ่งในเดือนเมษายนปี พ.ศ.2544 ที่มีชื่อว่า "Losoland" ซึ่งมีเพลงที่ฮิต ๆ คือ "มอ'ไซค์รับจ้าง", "Baby I Love You" และ "หมาเห่าเครื่องบิน" ก่อนที่ กลาง จะโบกมือลาวงโลโซไป

         




ซึ่งในปี 2544 วงโลโซไม่ได้ออกผลงานมาเพียงอัลบั้มเดียว ในช่วงเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2544 เสก และวงโลโซ ก็ได้มีผลงานอัลบั้ม "ปกแดง" ออกมาให้แฟนเพลงได้ฟังกันอีกครั้ง โดยมีเพลงที่โด่งดังฮิตติดชาร์ตอย่างเพลง "พันธุ์ทิพย์", "เคยรักฉันบ้างไหม", "ฝนตกที่หน้าต่าง" และ "อยากเปลี่ยนใจเธอ" เป็น ต้น ซึ่งหลังจากนั้นในปี พ.ศ.2546 เสก โลโซ ได้ประกาศหยุดพักการทำงานของวงโลโซชั่วคราว โดยชี้แจงว่าเพื่อไปเรียนภาษาและดนตรีเพิ่มเติมที่ประเทศอังกฤษ หลังจากนั้นกลับมารับโฆษณาเครื่องดื่มบำรุงกำลังและเดินสายโปรโมทอยู่ช่วง หนึ่ง ก่อนที่จะกลับไปที่ประเทศอังกฤษอีกครั้ง เพื่อเรียนเรียบเรียงเสียงประสานที่โรงเรียน Hampstend




      

   หลังจากนั้น ในปีเดียวกันนั้นเอง เสก โลโซ ได้เดินทางกลับประเทศไทย และได้ออกอัลบั้มในฐานะศิลปินเดี่ยวในชื่ออัลบั้มว่า "7 สิงหา" ซึ่งมีเพลงฮิตที่ติดหูคนฟัง ติดปากคนร้อง (ตาม) อย่าง "ผู้ชนะ" และ "เธอจะรู้บ้างไหม" เป็นต้น และเสก โลโซ ได้ออกอัลบั้มเดี่ยวอัลบั้มที่ 2 คือ "Black & White" ในปี พ.ศ. 2549 ซึ่งประกอบไปด้วยเพลงดัง ๆ อย่าง "14 อีกครั้ง", "Ann (Do You Know What I Mean)", "ทนไม่ไหว" และ "เอาใจไม่เป็น" เป็นต้น หลังจากนั้นในปี พ.ศ.2553 เสก โลโซ ก็ได้อัลบั้มเดี่ยวถึง 2 อัลบั้มติดในปีเดียวกันคืออัลบั้ม "Plus" ที่มีเพลงดังอย่าง "ไม่ใช่ฉันใช่ไหม Feat ดา เอ็นโดรฟิน", "คนไทยหัวใจเดียวกัน" และ "อมพระมาพูด" ส่วนอีกอัลบั้มหนึ่งมีชื่อว่า "ใหม่" มีเพลงฮิตติดชาร์ตคือ "ก้อนเนื้อข้างซ้าย", "โลโซ 3ช่า" และ "ฉันรักประเทศไทย" เป็นต้น






http://musicstation.kapook.com/view34666.html%3Cbr%3E




วิธีโซโลกีต้าร์ แบบไม่ให้โล่ง โหวงเหวง


ถ้าคุณเล่นวงดนตรี เป็นแบบ วงๆ โดยเฉพาะสำหรับคนที่ มีมือกีต้าร์ คนเดียว เวลาคุณโซโล
เคยรู้สึกโหวงเหวงมั้ย ถึงแม้จะมีเบส ก็ตาม

ผมมีทริคผมเล็กๆ น้อยๆ นะครับ มีหลายวิธีด้วยกัน
 

1.ถ้า ต้องการให้เสียง มันไม่โล่ง หรือ ดูไม่มีพลังเสียง ให้เปิด Reverb หมุนไป (อย่างมาก ก็ 12 นาฬิกา) หน้าตู้แอมป์ เกือบทุกแอมป์ ในห้องซ้อมมีหมดครับ หมุนไป แล้วฟังดีๆ ความรู้สึก มันต่างกับที่ ไม่ได้ใช้
2.ใช้ Effect Chorus มันจะทำให้เสียง มีความไพเราะมากขึ้น และทำให้เสียงดูไม่ โล่ง
3.ใช้ Effect Delay ตัวนี้จะให้เสียง คล้ายกับ การเปิด ECHO ของไมค์โครโฟน ก็จะทำให้ เสียงกีต้าร์ ฟังดูดี ไปอีกแบบเหมือนกัน

โซโล่กีต้าร์


http://www.guitarthai.com/lessonboard/question.asp?QID=71 

ประวัติความเป็นมาของกีตาร์


  




     กีตาร์ถือเป็นเครื่องดนตรีที่เก่าแก่ที่สุดชนิดหนึ่งของมนุษย์เพียงแต่ชื่อเรียกและรูปร่างย่อมแตกต่างกันไปตามแต่ละยุคสมัย ซึ่งเริ่มเป็นที่นิยมในแถบเปอร์เซียและตะวันออกกลางหลายประเทศต่อมาได้เผยแพร่ไปยังกรุงโรมโดยชาวโรมันหรือชาวมัวร์ จากนั้นก็เริ่มได้รับความนิยมในสเปน ในยุโรปกีตาร์มักเป็นที่นิยมในหมู่ชนชั้นสูง และมีเชื้อพระวงศ์หลายพระองค์ที่ให้ความสนใจและศึกษาอย่างเช่น Queen Elizabeth I ซึ่งโปรดกับ Lute l ซึ่งถือว่าเป็นต้นแบบของกีตาร์ก็ว่าได้ แต่การพัฒนาที่แท้จริงนั้นได้เกิดจากการที่นักดนตรีได้นำมันไปแสดงหรือเล่นร่วมกับวงดนตรีของประชาชนทั่ว ๆ ไปทำให้มีการเผยแพร่ไปยังระดับประชาชนจนได้มีการนำไปผสมผสานเข้ากับเพลงพื้นบ้านทั่ว ๆ ไปและเกิดแนวดนตรีในแบบต่าง ๆ มากขึ้น
     ผู้หนึ่งที่สมควรจะกล่าวถึงเมื่อพูดถึงประวัติของกีตาร์ก็คือ Fernando Sor ซึ่งถือว่าเป็นผู้ที่มีความสำคัญและมีอิทธิพลต่อวงการกีตาร์เป็นอันมาก เนื่องจาการอุทิศตนให้กับการพัฒนารูปแบบการเล่นกีตาร์เทคนิคต่าง ๆ และได้แต่งตำราไว้มากมาย ในปี 1813 เขาเดินทางไปยังปารีตซึ่งเขาได้รับความสำเร็จและความนิยมอย่างมาก จากนั้นก็ได้เดินทางไปยังลอนดอนโดยพระราชูปถัมป์ของ Duke of Sussex และที่นั่นการแสดงของเขาทำให้กีตาร์เริ่มได้รับความนิยม จากอังกฤษเขาได้เดินทางไปยังปรัสเซีย รัสเซียและได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากชาวเมืองเซนต์ ปีเตอร์เบิร์ก ซึ่งที่นั่นเขาได้แต่งเพลงที่มีความสำคัญอย่างมากเพลงหนึ่งถวายแก่พระเจ้า Nicolus I จากนั้นเขาก็ได้กลับมายังปารีตจนกระทั่งเสียชีวิตเมื่อปี 1839 หลังจากนั้นได้มีการเรียนีการสอนทฤษฎีกีตาร์ที่เด่นชัดและสมบูรณ์มากขึ้น ทำให้กีตาร์ได้รับการพัฒนาอย่างมาก     หลังจากนั้นมีอีกผู้หนึ่งที่มีความสำคัญต่อกีตาร์เช่นกันคือ Francisco Tarrega (1854-1909) ซึ่งเกิดมาในครอบครัวที่ยากจนแต่ด้วยความสามารถด้านดนตรีของเขาก็ทำให้เขาประสบความสำเร็จจนได้จากการแสดง ณ Alhambra Theater จากนั้นเขาได้เดินทางไปยัง Valencia, Lyons และ Paris เขาได้รับการยกย่องว่าได้รวมเอาคุณสมบัติของเครื่องดนตรี 3 ชนิดมารวมกันคือ ไวโอลิน, เปียโน และ รวมเข้ากับเสียงของกีตาร์ได้อย่างไพเราะกลมกลืน ทุกคนที่ได้ฟังเขาเล่นต่างบอกว่าเขาเล่นได้อย่างมีเอกลักษณ์และสำเนียงที่มีความไพเราะน่าทึ่ง หลังจากเขาประสบความสำเร็จใน London, Brussels, Berne และ Rome เขาก็ได้เดินทางกลับบ้านและได้เริ่มอุทิศตนให้กับการแต่งเพลงและสอนกีตาร์อย่างจริงจัง ซึ่งนักกีตาร์ในรุ่นหลัง ๆ ได้ยกย่องว่าเขาเป็นผู้ริเริ่มการสอนกีตาร์ยุคใหม่
     อีกคนหนึ่งที่จะขาดไม่ได้คือ Andres Sergovia ผู้ซึ่งเดินทางแสดงและเผยแพร่กีตาร์มาแล้วเกือบทั่วโลกเพื่อให้คนได้รู้จัก กีตาร์มากขึ้น (แต่คงไม่ได้มาเมืองไทยน่ะครับ) ทั้งการแสดงเดี่ยวหรือเล่นกับวงออเคสตร้า จนเป็นแรงบันดาลใจให้มีการแต่งตำราและบทเพลงของกีตาร์ขึ้นมาอีกมากมาย อันเนื่องมาจากการเผยแพร่ความรู้ในเรื่องกีตาร์อย่างเปิดเผยและจริงจังของ เขาผู้นี้ นอกจากนี้ผลงานต่าง ๆ ของเขาได้ทำให้ประวัติศาสตร์กีตาร์เปลี่ยนหน้าใหม่เพราะทำให้นักีตาร์ได้มี โอกาสแสดงใน concert hall มากขึ้น และทำให้เกิดครูและหลักสูตรกีตาร์ขึ้นในโรงเรียนดนตรีอีกด้วย